• ฟีเจอร์
    เรื่องราวจากลูกค้า
    บทความ
สอบถาม

หน้าแรกบทความ

7 เทคนิคจัดระเบียบข้อมูลโครงการไม่ให้สูญหาย เรียกดูเมื่อไรก็เจอง่าย

2025/09/08
7 เทคนิคจัดระเบียบข้อมูลโครงการไม่ให้สูญหาย เรียกดูเมื่อไรก็เจอง่าย

7 เทคนิคจัดระเบียบข้อมูลโครงการผ่านโปรแกรมจัดการฐานข้อมูล ให้ค้นหาได้ง่ายขึ้น

ถ้าไม่อยากให้ไฟล์ข้อมูลหาย ต้องเริ่มจากตรงไหน? คำตอบง่ายมาก เริ่มจากการจัดระเบียบข้อมูลให้เป็นระบบตั้งแต่วันนี้ และเพื่อให้ทีมของคุณทำได้ง่ายขึ้น เราได้รวบรวม 7 เทคนิคที่ได้รับความนิยมจากหลายอุตสาหกรรมซึ่งใช้โปรแกรมจัดการฐานข้อมูลมาบริหารจัดการร่วมด้วย ดังด้านล่างนี้

1. รวมข้อมูลไว้ในที่เดียว

หนึ่งในหลักสำคัญของการจัดการข้อมูลที่ดีคือ รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร ข้อมูลการประชุม รูปภาพ แผนงาน หรือรายงาน ต้องอยู่ในระบบกลางที่เข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าต้องทำงานร่วมกับคนหลายฝ่าย หรือหลายทีม
ตัวอย่างระบบที่ใช้ได้
·      โปรแกรมบริหารโครงการที่มีระบบแนบไฟล์
·      โปรแกรมจัดการฐานข้อมูลแบบออนไลน์
·      โฟลเดอร์กลางบน Cloud Drive ที่มีโครงสร้างการจัดเก็บข้อมูลชัดเจน
ข้อดีคือทุกคนที่เกี่ยวข้องกับโครงการจะรู้ว่า “ต้องไปที่ไหนเพื่อหาไฟล์ที่ต้องการ” จึงช่วยลดเวลาในการถามกันไปมา และช่วยให้ข้อมูลไม่สูญหายด้วย

2. ตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์อย่างเป็นระบบ

การตั้งชื่อไฟล์แบบง่าย ๆ อย่าง “งานล่าสุด” หรือ “ไฟล์แก้ไขล่าสุด” หรือ “final-final-final.docx” อาจดูไม่เป็นปัญหาในตอนแรก แต่พอเวลาผ่านไปคุณจะสับสนว่า ไฟล์ไหนคือเวอร์ชันสุดท้าย ดังนั้น ควรมีการกำหนดให้ทุกคนตั้งชื่อไฟล์ด้วย Format เดียวกัน เช่น “ประเภทงาน_ชื่อโปรเจกต์_วันที่_เวอร์ชัน”
             จะได้ออกมาเป็นชื่อไฟล์ “เสนอราคา_โครงการตึก 10 ชั้น_20250422_V1.0”
รวมถึงการตั้งชื่อโฟลเดอร์ก็เช่นกัน ควรแยกตามหมวดหมู่ เช่น แผนงาน, เอกสารทางการเงิน, แบบร่าง หรือรูปภาพประกอบ และควรใช้ชื่อที่เข้าใจง่าย ไม่ใช้รหัสลับที่มีแต่เจ้าของไฟล์เท่านั้นที่รู้

3. ติด Tags และ Metadata เพื่อช่วยให้หาเจอง่ายขึ้น

ในยุคที่ข้อมูลวิ่งเร็วกว่าสายตา การใช้ Tags และ Metadata คือเทคนิคสำคัญในการจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจะช่วยให้สามารถกำหนดหมวดหมู่หรือสถานะของไฟล์ได้ เช่น
·      ประเภท : บัญชี ก่อสร้าง หรือออกแบบ
·      สถานะ : Draft รออนุมัติ หรือเสร็จสิ้น
·      ปีโครงการหรือชื่อผู้รับผิดชอบ
ยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับโปรแกรมจัดการฐานข้อมูลหรือระบบ Cloud ที่มีระบบค้นหา คุณจะสามารถค้นหาไฟล์จากคำค้นหรือแท็กได้ทันที โดยไม่ต้องไล่เปิดทีละโฟลเดอร์

4. จัดเก็บข้อมูลบน Cloud และสำรองข้อมูลไว้เสมอ

รู้หรือไม่ว่าการเลือกเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวอย่างเดียวคือความเสี่ยงที่ไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้น เพราะ
·      เครื่องพัง = ข้อมูลหาย
·      เจ้าของเครื่องลา = เข้าถึงไฟล์ไม่ได้
·      ลืมกดบันทึก = งานหายหมด
·      ไวรัสโจมตี = ไม่เหลืออะไรเลย หรือถูกเรียกค่าไถ่
การใช้ Cloud หรือบริการ Cloud จากโปรแกรมบริหารโครงการจะช่วยให้ข้อมูลถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ที่ปลอดภัย มีการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ และเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา และอย่าลืมเปิดระบบ Version History หรือ File Recovery ไว้ด้วย เผื่อเผลอลบหรือแก้ไขผิดก็สามารถย้อนกลับได้

5. กำหนดสิทธิ์เข้าถึง ไม่ควรเปิดให้ทุกคนดูได้ทุกอย่าง

ไม่ใช่ทุกคนในทีมจำเป็นต้องเข้าถึงทุกไฟล์ โดยเฉพาะบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน้าที่นั้น ๆ การจัดการสิทธิ์เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อป้องกันปัญหาการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการลบไฟล์โดยไม่ตั้งใจ โดยให้กำหนดด้วยระดับการใช้งาน เช่น
·      ระดับ Viewer ดูได้แต่แก้ไขไม่ได้
·      ระดับ Editor สามารถแก้ไขได้
·      ระดับ Admin เพิ่ม ลบ แชร์ และตั้งค่าต่าง ๆ ได้

โดยเฉพาะถ้าเลือกใช้โปรแกรมจัดการฐานข้อมูลที่เชื่อมกับหลายฝ่าย เช่น ฝ่ายบัญชี ฝ่ายขาย ฝ่ายช่าง ฝ่ายไอที ต้องกำหนดสิทธิ์ให้ชัดว่าใครจะเข้าถึงข้อมูลใดได้บ้าง

6. เปลี่ยนฟอร์มกระดาษเป็นดิจิทัล

เชื่อหรือไม่ว่า แบบฟอร์มกระดาษที่ใช้กันมานาน คือต้นเหตุที่ทำให้ข้อมูลหายได้ง่ายสุด เช่น หายระหว่างโต๊ะหนึ่งไปอีกโต๊ะหนึ่ง, เปียกน้ำ, ถูกนำไปทิ้งเพราะเข้าใจผิด หรือถูกทำสำเนาโดยบุคคลไม่เกี่ยวข้อง ดังนั้นการการใช้ฟอร์มดิจิทัลผ่านโปรแกรมจัดการฐานข้อมูลจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ และมีประโยชน์อื่น ๆ อีก เช่น
·      ข้อมูลที่กรอกเข้าสู่ฐานข้อมูลทันที
·      เรียกดูข้อมูลได้ทุกเวลา และทุกที่
·      ลดการกรอกซ้ำ
·      ไม่ต้องสแกนหรือถ่ายเอกสาร ทำให้ลดการใช้งบประมาณไปกับกระดาษและหมึกพิมพ์
·      ตรวจสอบย้อนหลังง่ายว่าใครกรอกข้อมูล และใครอนุมัติ เป็นต้น
·      หากเชื่อมต่อเข้ากับโปรแกรมจัดการข้อมูล ก็จะกลายเป็นระบบที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังมาก

7. สร้างระบบค้นหาให้รองรับการใช้งานระยะยาว

สุดท้ายแล้วการจัดระเบียบข้อมูลที่ดีต้องคิดเผื่ออนาคต อย่าแค่เก็บให้พอใช้และรู้วิธีใช้ในวันนี้ แต่ต้องวางโครงสร้างให้ค้นหาได้ง่ายในอีก 3 เดือน หรือ 3 ปีข้างหน้า ซึ่งทำได้ง่าย ๆ คือ
·      ใช้ชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ที่อธิบายงานได้ทันที
·      ตั้งระบบค้นหาโดยใช้คีย์เวิร์ด หรือแท็ก
·      ใช้โปรแกรมจัดการข้อมูลที่มีระบบค้นหาอัจฉริยะ
·      ใช้ระบบ Index หรือ Table of contents หากข้อมูลมีปริมาณมาก

การมีระบบข้อมูลโครงการที่ดีจะช่วยลดโอกาสผิดพลาดได้มาก ทั้งยังช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงาน และสร้างความมั่นใจให้ทั้งในทีมและกับลูกค้า โดยเฉพาะในยุคที่ทุกอย่างต้องเร็วและแม่นยำ โปรแกรมจัดการฐานข้อมูลและโปรแกรมบริหารโครงการจึงเป็นตัวช่วยสำคัญ แต่สิ่งที่ทำให้ระบบสมบูรณ์ได้คือ “วิธีคิดและพฤติกรรมของคนในทีม” เริ่มจากการเปลี่ยนสิ่งเล็ก ๆ ที่ทำได้เลยทันที เช่น การตั้งชื่อไฟล์ หรือการเก็บข้อมูลแบบรวมศูนย์ แล้วคุณจะพบว่า งานไหลลื่นขึ้นอย่างชัดเจน


กองบรรณาธิการ คอลัมน์ดิจิทัลไลเซชัน

กองบรรณาธิการ คอลัมน์ดิจิทัลไลเซชัน

KANNA (คันนะ) คือแพลตฟอร์มสนับสนุนการทำงานในรูปแบบดิจิทัลให้กับธุรกิจประเภทต่างๆ ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในหน้างาน ไปจนถึงการปรับปรุงการบริหารจัดการองค์กร
ในคอลัมน์นี้ ทีมงานของเรานำเสนอข้อมูลและบทความเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ ครอบคลุมตั้งแต่การจัดการโครงการ การบริหารธุรกิจ ไปจนถึงการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อช่วยให้องค์กรทุกระดับสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ราบรื่น และยั่งยืน

สอบถาม

KANNA สามารถปรับแต่งตามขนาดของบริษัท อุตสาหกรรม ขั้นตอนการทำงานของคุณ เป็นต้น
กรุณาติดต่อเราหากคุณต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนและค่าใช้จ่ายของเรา
เรายินดีที่จะเสนอแผนที่เหมาะที่สุดให้กับคุณ

KANNA สามารถปรับแต่งตามขนาดของบริษัท อุตสาหกรรม ขั้นตอนการทำงานของคุณ เป็นต้น
กรุณาติดต่อเราหากคุณต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนและค่าใช้จ่ายของเรา
เรายินดีที่จะเสนอแผนที่เหมาะที่สุดให้กับคุณ

ฟีเจอร์

KANNA PROJECT

KANNA REPORT

  • English
  • ภาษาไทย
  • Bahasa Indonesia
  • 日本語
© 2025 Aldagram Inc.